Please use this identifier to cite or link to this item:
http://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/handle/123456789/5843
Title: | การเปรียบเทียบการคิดเชิงบริหารจัดการทางสมอง ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ระหว่างโรงเรียนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบด้วยนวัตกรรมจิตศึกษา PBL และ PLC กับโรงเรียนทั่วไป The comparison of executive functions of prathom students between school systematic with innovation changes Jitsuksa, PBL and PLC with General school. |
Authors: | Thanyalak Paitoon ธัญญลักษณ์ ไพฑูรย์ Chamnan Panawong ชำนาญ ปาณาวงษ์ Naresuan University Chamnan Panawong ชำนาญ ปาณาวงษ์ chamnanp@nu.ac.th chamnanp@nu.ac.th |
Keywords: | การคิดเชิงบริหารจัดการทางสมอง จิตศึกษา PBL PLC Executive Functions Jitsueksa PBL PLC |
Issue Date: | 2566 |
Publisher: | Naresuan University |
Abstract: | The purposes of this research were: 1) to measure executive functions of primary students between the Jitsueksa PBL-and-PLC-integrated school and the regular school. 2) to compare executive functions of primary students between the Jitsueksa PBL-and-PLC-integrated school and the regular school. 3) to compare the primary-school students’ executive functions behaviors of primary students between the Jitsueksa PBL-and-PLC-integrated school and the regular school. The sample of this research were 60 students who studied in grade 4-6 in academic year 2020. The instruments used for collecting data were the test of executive functions of primary students. The data were analyzed by arithmetic mean, standard deviation (S.D.), and t-test. The findings were as follows:
1. The result of the measurement of the executive functions of primary students from the Jitsueksa PBL-and-PLC-integrated school is higher than the regular school. The former school’s result is high. The latter school’s result is normal.
2. The working memory, initiation, emotional control, inhibit, and self-monitoring skills of the Jitsueksa PBL-and-PLC-integrated school were significantly higher than the regular school at the .05 level. The planning skill of the Jitsueksa PBL-and-PLC-integrated school were not significantly different than the regular school at the .05 level. การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) วัดการคิดเชิงบริหารจัดการทางสมอง ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ระหว่างโรงเรียนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบด้วยนวัตกรรมจิตศึกษา PBL และ PLC กับโรงเรียนทั่วไป 2) เปรียบเทียบการคิดเชิงบริหารจัดการทางสมอง ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ระหว่างโรงเรียนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบด้วยนวัตกรรมจิตศึกษา PBL และ PLC กับโรงเรียนทั่วไป กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 โรงเรียนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบด้วยนวัตกรรมจิตศึกษา PBL และ PLC ปีการศึกษา 2563 จำนวน 60 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบวัดการคิดเชิงบริหารจัดการทางสมอง ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test ผลการวิจัย พบว่า 1. การวัดการคิดเชิงบริหารจัดการทางสมอง ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ระหว่างโรงเรียนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบด้วยนวัตกรรมจิตศึกษา PBL และ PLC กับโรงเรียนทั่วไป พบว่า นักเรียนโรงเรียนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบด้วยนวัตกรรมจิตศึกษา PBL และ PLC มีการคิดเชิงบริหารจัดการทางสมอง ในภาพรวมอยู่ในระดับ มาก และนักเรียนโรงเรียนทั่วไป มีการคิดเชิงบริหารจัดการทางสมอง ในภาพรวมอยู่ในระดับ ปานกลาง 2. เปรียบเทียบการคิดเชิงบริหารจัดการทางสมอง ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ระหว่างโรงเรียนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบด้วยนวัตกรรมจิตศึกษา PBL และ PLC กับโรงเรียนทั่วไป พบว่า ตัวบ่งชี้ด้านความจำขณะทำงาน ด้านการริเริ่ม ด้านการควบคุมอารมณ์ ด้านการยับยั้ง และด้านการตรวจสอบตนเอง แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และด้านการวางแผนและการจัดการ ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 อีกทั้ง การคิดเชิงบริหารจัดการทางสมองของนักเรียนโรงเรียนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบด้วยนวัตกรรมจิตศึกษา PBL และ PLC มีค่าเฉลี่ยสูงกว่า โรงเรียนทั่วไป เมื่อพิจารณารายด้านนักเรียนมีพฤติกรรมตัวบ่งชี้ที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการตรวจสอบตนเอง รองลงมา คือ ด้านความจำขณะทำงาน ด้านการริเริ่ม ด้านการวางแผนและการจัดการ ด้านการยับยั้ง ไตร่ตรอง และด้านการควบคุมอารมณ์ ตามลำดับ ข้อมูลเชิงคุณภาพ เมื่อพิจารณาจากการสังเกต พบว่า นวัตกรรมจิตศึกษาเกี่ยวข้องกับนักเรียน โดยการใช้ PBL เป็นกิจกรรม Active ซึ่งนักเรียนสามารถกำหนดหัวข้อที่จะเรียนรู้เอง ครูจากเดิมที่ต้องคอยบอกความรู้ คอยหาความรู้มาให้นักเรียน เปลี่ยนเป็นคนที่คอยตั้งคำถามให้เขาไปเสาะแสวงหาความรู้ โดยครูคอยเป็นโค้ชคอยช่วยเหลือเขา อำนวยความสะดวกให้เขาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และครูก็ได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันกับเด็กนักเรียน การนำจิตศึกษามาปรับใช้กับนักเรียน จึงเห็นความเปลี่ยนแปลงของพี่ ๆ นักเรียน จะเห็นว่านักเรียนมีจิตใจจดจ่อตั้งใจกับสิ่งที่ทำมากขึ้น สามารถกำกับตนเอง มีความนอบน้อม รู้จักการรอคอย เห็นความสำคัญของตนเองกับสิ่งต่าง ๆ เคารพตนเองและผู้อื่นมากขึ้นกว่าเดิม เช่น นักเรียนนั่งเขียนงานโดยสงบนิ่ง, นักเรียนหยิบของแล้วยกมือไหว้ หลังการสังเกตนักเรียนมีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นกว่าเดิม นักเรียนมีความนอบน้อมดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เวลาเดินเข้าแถวก็เป็นระเบียบเรียบร้อย ทำการบ้านสามารถทำตามขั้นตอนที่คุณครูสั่ง |
URI: | http://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/handle/123456789/5843 |
Appears in Collections: | คณะศึกษาศาสตร์ |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
ThanyalakPaitoon.pdf | 2.04 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in NU Digital Repository are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.