AN INVESTIGATION OF THE EFFECTIVENESS OF TEAM-BASED LEARNING IN ENHANCING ENGLISH-SPEAKING SKILLS FOR JOB INTERVIEWS AND PERFORMANCE FOR THIRD-YEAR VOCATIONAL STUDENTS: KAMPHAENG PHET TECHNICAL COLLEGE

Abstract

The objectives of the study were 1) to compare students’ English-speaking skills for job interviews and performance before and after learning with Team-based Learning; and 2) to study students’ satisfaction with Team-based Learning in enhancing English-speaking skills for job interviews and performance. The samples of this study included 25 third-year vocational students majoring in “Machine Shop” obtained through a clustered random sampling method. The research instruments included Team-based Learning instructional lesson plans, an English-speaking skills assessment pre-test and post-test and a students’ satisfaction questionnaire. Data were analyzed using Mean, Standard Deviation, and a t-test dependent. The results revealed as follows: 1) The students’ English-speaking skills for job interviews after learning through Team-based Learning were significantly higher than before at 0.05 level; and 2) Students’ satisfaction toward the use of Team-based Learning in enhancing English-speaking skills for job interviews and performance was at the highest level (4.51).

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการพูดภาษาอังกฤษในการสัมภาษณ์และการปฏิบัติงานของนักเรียนก่อนและหลังเรียนโดยจัดการเรียนรู้แบบทีมเป็นฐาน 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบทีมเป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดภาษาอังกฤษในการสัมภาษณ์และการปฏิบัติงาน ประชากรในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 3 ที่ลงทะเบียนรายวิชาภาษาอังกฤษเตรียมความพร้อมในการทำงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 200 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปีที่ 3 สาขาวิชาช่างกลโรงงาน จำนวน 25 คน ได้มาจากการเลือกแบบสุ่มกลุ่ม (Clustered Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้แบบทีมเป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดภาษาอังกฤษในการสัมภาษณ์และการปฏิบัติงาน แบบทดสอบเพื่อประเมินทักษะการพูดภาษาอังกฤษในการสัมภาษณ์และการปฏิบัติงานโดยการเรียนรู้แบบทีมเป็นฐาน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบทีมเป็นฐาน สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติ t-test dependent ของคะแนนก่อนและหลังเรียน เพื่อเปรียบเทียบทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียน ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลการเปรียบเทียบทักษะการพูดภาษาอังกฤษในการสัมภาษณ์และการปฏิบัติงานโดยการจัดการเรียนรู้แบบทีมเป็นฐาน พบว่า หลังการเรียนรู้นักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 2) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบทีมเป็นฐาน อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.51