การพัฒนารูปแบบโฆษณาดิจิทัลการท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดนครพนม

Abstract

The Objective of this research was to 1) Develop Digital Advertising Model for Community Tourism Nakhon Phanom Province 2) to assess the efficiency Design of digital advertising for community tourism Nakhon Phanom Province. The research area was determined in 11 communities in 4 districts of Nakhon Phanom Province. This article was research and development (R&D). Using qualitative and quantitative research methods. The samples were: 1) village philosophers Expert in community tourism identity Nakhon Phanom Province Academics and experts in designing and creating digital advertisements. Communication Arts, Advertising, Art and Design, 41 persons. The research tools 1) Expert evaluation form for checking research tools 2) Interview form 3) Data recording form 4) Digital advertising design and creative expert evaluation form. The survey statistical analysis data were analyzed by frequency, percent, average and standard deviation.

The result of the study found that Summary of analytical results according to the Efficiency Evaluation of Digital Advertising Design and Creation for community tourism Nakhon Phanom Province having the highest averages, passing the criteria in all aspects as follows. 1) Video clips( x̄ = 4.64 S.D. = 0.48) 2) Brochure ( x̄ = 4.56 S.D. = 0.49) 3) Photos ( x̄ = 4.52 S.D. = 0.49) and 4) advertising posters ( x̄ = 4.50 S.D. = 0.51), the average value of all aspects is ( x̄ = 4.55 S.D. = 0.49) at the highest level

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนารูปแบบโฆษณาดิจิทัลการท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดนครพนม 2) เพื่อประเมินประสิทธิภาพการออกแบบโฆษณาดิจิทัลการท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดนครพนม โดยกำหนดพื้นที่ของการวิจัยทั้งสิ้น 11 ชุมชน 4 อําเภอ ของจังหวัดนครพนม ผู้วิจัยได้ใช้หลักการวิจัยและพัฒนา (Research and Development: R&D) โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ 1) ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอัตลักษณ์การท่องเที่ยวชุมชน จังหวัดนครพนม นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบและสร้างสรรค์โฆษณาดิจิทัล ด้านนิเทศศาสตร์ การโฆษณา ศิลปะและการออกแบบ จำนวน 41 ท่าน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบประเมินผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบเครื่องมือวิจัย 2) แบบสัมภาษณ์ 3) แบบบันทึกข้อมูล 4) แบบประเมินผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบและสร้างสรรค์โฆษณาดิจิทัล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน

ผลการวิจัยพบว่า การประเมินประสิทธิภาพการออกแบบโฆษณาดิจิทัลการท่องเที่ยวชุมชมจังหวัดนครพนม มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดผ่านตามเกณฑ์ในทุกด้าน ดังนี้ 1) คลิปวีดีโอ ( x̄ = 4.64 S.D. = 0.48) 2) แผ่นพับ ( x̄ = 4.56 S.D. = 0.49) 3) ภาพถ่าย ( x̄ = 4.52 S.D. = 0.49) และ 4) โปสเตอร์โฆษณา ( x̄ = 4.50 S.D. = 0.51) โดยมีผลสรุปค่าเฉลี่ยรวมในทุกด้านอยู่ที่ ( x̄ = 4.55 S.D. = 0.49) อยู่ในระดับมากที่สุด