Please use this identifier to cite or link to this item: http://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/handle/123456789/6570
Title: การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการสอนอ่านแบบเน้นมโนทัศน์ร่วมกับอินโฟกราฟิก เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
A DEVELOPMENT OF LEARNING ACTIVITY THROUGH CONCEPT-ORIENTED READING INSTRUCTION COMBINED WITH INFOGRAPHIC TO ENHANCE CRITTICAL READING ABILITY FOR MATTHAYOMSUKSA 3 STUDENTS
Authors: Werayut Akkaraphon
วีรยุทธ อัครผล
Kobsook Kongmanus
กอบสุข คงมนัส
Naresuan University
Kobsook Kongmanus
กอบสุข คงมนัส
kobsookk@nu.ac.th
kobsookk@nu.ac.th
Keywords: การสอนอ่านแบบเน้นมโนทัศน์
อินโฟกราฟิก
ความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ
Concept-Oriented Reading Instructions
Infographic
Critical Reading Ability
Issue Date: 2565
Publisher: Naresuan University
Abstract: The purpose of this independent study was twofold: 1) to construct and assess the efficiency of a learning activity through concept-oriented reading instruction combined with infographic to enhance critical reading ability for Matthayomsuksa 3 students, using a criterion of 80/80, and 2) to implement and study the outcomes of this learning activity by comparing the critical reading ability of students before and after the activity, and examining the results of the activity itself. The study followed a research and development process in two steps. Step 1: involved constructing and assessing the effectiveness of the learning activity through concept-oriented reading instruction combined with infographic. The activity was certified by five experts and tried out with three students of Matthayomsuksa 3 at Watjantawanook School under the Phitsanulok Primary Educational Service Area Office 1 in the second semester of academic year 2022, to evaluate the appropriateness of the language, time, and learning materials. After revising the activity, it was tried out with nine students of Matthayomsuksa 3 at the same school to assess its effectiveness using a standard criterion of 80/80. Step 2: involved implementing and studying the outcomes of the learning activity through concept-oriented reading instruction combined with infographic. The sample group was 22 students of Matthayomsuksa 3 at Watjantawanook School under the Phitsanulok Primary Educational Service Area Office 1 in the second semester of academic year 2022. The research tools included the learning activity through experiential learning theory combined with being a content creator on social media, field notes, and a Chinese speaking ability test. The data were analyzed using mean scores (x-bar), standard deviation (S.D.), and effectiveness equal (E1/E2).           The results of the study revealed that:           1. The learning activity through concept-oriented reading instruction combined with infographic involved four steps: 1) Observe and personalize 2) Search and retrieve 3) Comprehend and integrate 4) Communicating to others. The activity was of appropriate quality with the highest level of effectiveness (x-bar= 4.65, S.D. = 0.26) at 81.48/80.37.           2. The implementation and study of the outcomes of the learning activity through through concept-oriented reading instruction combined with infographic showed that:                      2.1 Critical reading ability in the posttest was higher than in the pretest with a statistical level of .01.                      2.2 Students gained proficiency in Critical reading ability in every element during the learning activity and they can summarize the new knowledge by using infographic.
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและประเมินประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการสอนอ่านแบบเน้นมโนทัศน์ร่วมกับอินโฟกราฟิก เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 80/80 2) ใช้และศึกษาผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการสอนอ่านแบบเน้นมโนทัศน์ร่วมกับอินโฟกราฟิก เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  โดย 2.1) เปรียบเทียบความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณระหว่างก่อนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการสอนอ่านแบบเน้นมโนทัศน์ร่วมกับอินโฟกราฟิก 2.2) ศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการสอนอ่านแบบเน้นมโนทัศน์ร่วมกับอินโฟกราฟิก ดำเนินการวิจัยตามระเบียบวิธีวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มี 2 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การสร้างและประเมินประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการสอนอ่านแบบเน้นมโนทัศน์ร่วมกับอินโฟกราฟิก ซึ่งพิจารณาความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน จากนั้นจึงนำไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดยางเอน (ราชประชานุเคราะห์) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 3 คน เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมด้านภาษา เวลา และสื่อ แล้วปรับปรุงแก้ไข จากนั้นจึงนำไปทดลองใช้กับนักเรียน จำนวน 9 คน เพื่อประเมินประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้ตามเกณฑ์ 80/80 ขั้นตอนที่ 2 การใช้และศึกษาผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้เรียนรู้ผ่านการสอนอ่านแบบเน้นมโนทัศน์ร่วมกับอินโฟกราฟิก กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดจันทร์ตะวันออก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 22 คน โดยใช้แบบแผนการทดลอง One Group Pretest-Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) กิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการสอนอ่านแบบเน้นมโนทัศน์ร่วมกับอินโฟกราฟิก 2) แบบบันทึกภาคสนาม 3) แบบวัดความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ค่าเฉลี่ย (x-bar) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่า t-test แบบ dependent sample และหาค่าประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สูตร E1/E2           ผลการวิจัย พบว่า           1. กิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการสอนอ่านแบบเน้นมโนทัศน์ร่วมกับอินโฟกราฟิกประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นการสังเกตและสำรวจตนเอง 2) ขั้นค้นคว้าและเรียกคืน 3) ขั้นทำความเข้าใจเนื้อหาและบูรณาการ 4) ขั้นติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น มีความเหมาะสมระดับมากที่สุด (x-bar= 4.65, S.D. = 0.26) และมีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.48/80.37           2. ผลการใช้และศึกษาผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ผ่านการสอนอ่านแบบเน้นมโนทัศน์ร่วมกับอินโฟกราฟิก เพื่อส่งเสริมความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3                           2.1 ความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01                      2.2 นักเรียนเกิดความสามารถด้านการอ่านอย่างมีวิจารณญาณทุกองค์ประกอบระหว่างปฏิบัติและสามารถสรุปองค์ความรู้ใหม่ผ่านการสร้างอินโฟกราฟิก
URI: http://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/handle/123456789/6570
Appears in Collections:คณะศึกษาศาสตร์

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
WerayutAkkaraphon.pdf3.71 MBAdobe PDFView/Open


Items in NU Digital Repository are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.