THE DEVELOPMENT OF ENGLISH INSTRUCTIONAL PACKAGE FOR ENHANCING THE KNOWLEDGE AND UNDERSTANDING ON PARTS OF SPEECH FOR PRATOMSUKSA 6 STUDENTS, ANUBANPANGMAKHA SCHOOL, KAMPHAENG PHET

Abstract

The purposes of the research were: (1) to study the efficiency of English instructional package on parts of speech for Grade-6 students with the criterion of 80/80; (2) to compare English learning achievement of Grade-6 students before and after being taught by using the English instructional package. The samples were 29 Grade-6 students of Anubanpangmakha School who were studying in the second semester in the academic year 2021, selected by using purposive sampling. The research tools were: 1) an English instructional package on parts of speech for Grade-6 students with efficiency at 85.68/88.66; 2) an English achievement test with four multiple choices and 30 items, the degree of difficulty is between 0.25–0.77, the discrimination is between 0.28–0.62 and the reliability index is of 0.91. The statistics used in data analysis were mean, standard deviation, and dependent t-test. The research results were found that: 1) the instructional package had an efficiency value at 85.68/88.66; and 2) the Grade-6 students’ English learning achievement test after using the instructional package was higher than the pre-test with the statistical significance at the .05 level.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) พัฒนาประสิทธิภาพของชุดการสอนภาษาอังกฤษ เรื่อง Parts of speech สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษก่อนเรียนกับหลังเรียนที่ใช้ชุดการสอนภาษาอังกฤษ เรื่อง Parts of speech สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลปางมะค่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กำแพงเพชรเขต 2 จังหวัดกำแพงเพชร ที่กำลังศึกษาภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 29 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดการสอนภาษาอังกฤษ เรื่อง Parts of speech สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพ 85.68/88.66 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบมี 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.25 – 0.77 และค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.28 – 0.62 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ ผลการวิจัยพบว่า1) ชุดการสอนวิชาภาษาอังกฤษที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพอยู่ในระดับเหมาะสมที่สุด โดยประสิทธิภาพ 85.68/88.66 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดการสอนภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05