การพัฒนาการเรียนรู้ด้านคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง(TPR)ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองจิกและโรงเรียนบ้านจันทิมา จังหวัดกำแพงเพชร

Abstract

The purpose of this research were 1) to construct and find out the appropriateness of using Total Physical Response (TPR) technique in lesson plan for encouraging English vocabulary learning. 2) to experiment on Total Physical Response (TPR) teaching and to compare statistical literacy ability of pretest and posttest 3) To study students' satisfaction with learning using Total Physical Response in the English Vocabulary Learning. The data resources are from grade three students in Bangnongjik school and Banchantima School. The class consists of 20 students in the second semester of academic year 2022 used Purposive sampling. The statistics used in the data analysis were mean (x̅), standard deviation (S.D.) and t-test dependent sample. The result of study: 1) to construct and find out the appropriateness of using Total Physical Response (TPR) technique in lesson plan that are 8 components. All components of lesson plan have revealed that the appropriateness was a high level. (x̅=4.47, S.D.=0.28) Further, the English vocabulary lesson plan can develop the memorized English vocabulary ability. 2) The scores of memorized English vocabulary after using Total Physical Response (TPR) were higher at a significance of .05 level. 3) The students who learned English vocabulary using Total Physical Response (TPR) were satisfied at a high level (x̅=4.25, S.D.=0.55).

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและหาค่าความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ด้านคำศัพท์โดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง 2) ใช้แผนและเปรียบเทียบความสามารถการจดจำคำศัพท์คำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้โดยใช้แผนการเรียนรู้ด้านคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) ประชากรที่ใช้ในงานวิจัยนี้คือนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองจิกและโรงเรียนบ้านจันทิมา จำนวน 20 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive sampling) สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ t-test แบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (dependent sample) ผลวิจัยพบว่า 1) การสร้างและหาค่าความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง ประกอบด้วย 8 องค์ประกอบ ทั้งนี้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านคำศัพท์ภาษาอังกฤษมีค่าความเหมาะสมและสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก (x̅ = 4.47, S.D. = 0.28) จึงสามารถพัฒนาความสามารถในการจดจำคำศัพท์ของผู้เรียน 2) ความสามารถในการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ผู้เรียนมีความรู้สึกพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยวิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทางอยู่ในระดับมาก (x̅ = 4.25, S.D. = 0.55)