การศึกษาการสร้างแบรนด์ของโรงเรียนเอกชนในระบบ

Abstract

The research aims to study guidelines for building a brand of private schools, where the schools and the board, as well as school personnel, has a good relationship structure. Three schools were specifically selected. The method used in this study is a semi structured interview and content analysis is used to examine the collected data. The result indicated that building a private school brand consisted of 4 factors, which are

1. Setting the school's brand positioning, which can be accomplished by setting the right guardian target who matches the school context, along with the school location. Moreover, researching the society is necessary in order to set the context of school to match the society's environment. Also, finding parents' needs in order to fulfill their requirements which can be done by engaging with the public work, using the survey, and organizing activities for both the student gradians and community.

2. Building the school's brand personality. This means the school administrator's creditability, demonstrated through well-behaved in both speech and action, is necessary to be noticed by school personnel and students. The board, moreover, needs to show their ability to lead the school toward the goal. All teachers and school workers must pay careful attention to students both inside and outside the classroom. All of these can affect students, for example, being assertive, well-behaved, having good manner of speech, and being good citizens for the society.

3. Building the school's brand identity by creating and developing an outstanding program, enhancing students' achievement in order to raise the school's academic excellence, and designating a logo, colors, and student uniforms.

4. Having School communication can be done by promoting school information via an online platform, organizing a meeting of students' guardians in order to promote the school's educational development policy, listening to parents' opinions, and visiting the community for public relations.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการสร้างแบรนด์ของโรงเรียนเอกชนในระบบ โดยผู้วิจัย ศึกษาการสร้างแบรนด์ของโรงเรียนเอกชนในระบบจากโรงเรียนเอกชนที่มีการปฏิบัติที่ดีกับผู้บริหาร และบุคลากรโรงเรียนเอกชนของโรงเรียนเอกชนที่มีการปฏิบัติที่ดี จำนวน 3 โรงเรียน ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสัมภาษณ์การศึกษาการสร้างแบรนด์ของโรงเรียนเอกชน มีลักษณะเป็นแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า การสร้างแบรนด์ของโรงเรียนเอกชนในระบบมี 4 องค์ประกอบ ดังนี้

1. การวางตำแหน่งของโรงเรียน กำหนดกลุ่มเป้าหมายของโรงเรียนที่สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียนและการกำหนดตำแหน่งที่ตั้งของโรงเรียน ศึกษาสภาพสังคมโดยรอบโรงเรียนเพื่อกำหนดแนวทางของโรงเรียนให้เข้ากับบริบทของสังคมนั้น ศึกษาความต้องการของผู้ปกครอง เพื่อกำหนดแนวทางของโรงเรียนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ปกครอง การร่วมงานกับชุมชน แบบสอบถาม การจัดกิจกรรมร่วมกับผู้ปกครองและชุมชน

2. การสร้างบุคลิกภาพของโรงเรียน ผู้บริหารสร้างความน่าเชื่อถือ การเป็นตัวอย่างที่ดีทั้งการพูด การวางตัว การบริหาร แก่ ครู บุคลากร และนักเรียน ผู้บริหารมีภาวะความเป็นผู้นำ สามารถนำโรงเรียนไปสู่จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ ครู และบุคลากร ควรเอาใส่ใจนักเรียนทั้งในและนอกห้องเรียน สร้างบุคลิกภาพของนักเรียนให้มีความกล้าแสดงออก การเป็นนักเรียนที่มีมารยาท พูดจาดี เป็นพลเมืองดี

3. การสร้างเอกลักษณ์ของโรงเรียน การสร้างและการพัฒนาหลักสูตรให้มีความโดดเด่น ยกระดับผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนเพื่อให้โรงเรียนมีความโดดเด่นทางด้านวิชาการและกำหนด ตราสัญลักษณ์ สีประจำโรงเรียน และเครื่องแบบนักเรียน

4. การสื่อสารของโรงเรียน ประชาสัมพันธ์ข้อมูลของโรงเรียนผ่านช่องทางออนไลน์ จัดกิจกรรมการประชุมผู้ครองนักเรียนเพื่อประชาสัมพันธ์นโยบายการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียน และรับฟังความคิดเห็นของผู้ปกครอง และลงพื้นที่ชุมชนเพื่อการประชาสัมพันธ์