การพัฒนาทักษะอ่านจับใจความสำคัญ โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ 5 STEP's ร่วมกับเทคนิค 5W1H ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

Abstract

The objectives of this research were 1) to develop a 5 STEPs learning process management in conjunction with the 5W1H technique. 2) to compare reading comprehension skills before and after learning activities. 3) to study the satisfaction of grade 2 students at Wat Kooyang School. to the activities of learning By organizing the 5 STEPs learning process together with the 5W1H technique. The population was Prathom Suksa 2 students, the second semester of the 2022 academic year at Wat Koo Yang School, 6 classrooms, with a total of 229 people. The sample group was Prathom Suksa 2/2 students, semester 2. Academic year 2022, Wat Koo Yang School, 1 classroom, 39 students by group random sampling method. The tools used in the research were: 1) a learning management plan by organizing a learning process of 5 STEPs together with the 5W1H technique of Prathom Suksa 2 students; 2) a reading comprehension test; for grade 2 and 3) a questionnaire on student satisfaction with learning activities organized by 5 STEPs learning process combined with the 5W1H technique of grade 2 students. Data analysis were mean, percentage, standard deviation, dependent t-test.

The findings revealed that 1) the development of a learning management plan By organizing the 5 STEPs learning process together with the 5W1H technique, it was found that the most appropriate level was found (mean = 4.60, standard deviation = 0.46). of students after learning management By organizing a learning process of 5 STEPs together with the 5W1H technique higher than before the learning management. 3) The students' satisfaction towards the 5 STEPs learning process management with the 5W1H technique was at the highest level (mean = 4.52, standard deviation = 0.47).

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs ร่วมกับเทคนิค5W1H ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อเปรียบเทียบทักษะการอ่านจับใจความสำคัญก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs ร่วมกับเทคนิค 5W1H ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดคูยาง ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs ร่วมกับเทคนิค 5W1H ประชากร ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดคูยาง 6 ห้องเรียน จำนวน 229คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดคูยาง 1 ห้องเรียน จำนวน 39 คน โดยวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs ร่วมกับเทคนิค 5W1H ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 2) แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs ร่วมกับเทคนิค 5W1H ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ t-test dependent

ผลการวิจัยพบว่า 1) การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs ร่วมกับเทคนิค 5W1H พบว่า มีความเหมาะสมระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.60, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.46) 2) ผลการเปรียบเทียบทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ ของนักเรียนหลังการจัดการเรียนรู้ โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs ร่วมกับเทคนิค 5W1H สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs ร่วมกับเทคนิค 5W1H อยู่ในระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย = 4.52, ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.47)