Please use this identifier to cite or link to this item: http://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/handle/123456789/5279
Title: กลยุทธ์การตลาดดิจิทัล ปัญหาเเละโอกาสของการส่งออกสินค้าเกษตร ผ่านรูปเเบบ B2B Marketplace ในยุคไทยเเลนด์ 4.0
Digital Marketing Strategy Problems and opportunities of exporting agricultural products through B2B Marketplace in Thailand 4.0
Authors: NANNAPHAT KUNDEE
นันท์นภัส กุนดี
Woradech Na krom
วรเดช ณ กรม
Naresuan University
Woradech Na krom
วรเดช ณ กรม
woradechn@nu.ac.th
woradechn@nu.ac.th
Keywords: กลยุทธ์การตลาดดิจิทัล
การส่งออก
สินค้าเกษตร
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทธุรกิจกับธุรกิจ
Digital Marketing Strategy
Export
Agricultural products
B2B Marketplace
Issue Date: 2564
Publisher: Naresuan University
Abstract: Nowadays, fruit exports in Thailand are growing at a high rate. This sector can also boost Thai economy and increase farmer income who are the biggest population in Thailand. Therefore, improvement in agricultural e-commerce strategies is needed in order to provide a wide variety of channels for Thai exports. Meanwhile, considering strengths of online businesses that make trading easy and access to a group of sellers directly without the middleman, Thai Ministry of Commerce has been developing platform Thaitrade.com (business type: B2B marketplace). It encourages farmers to increase distribution channels in online format. It is also shows that this policy is being prepared to enter digital technology society. However, there are still many issues and challenges one of which is an increasing competition in terms of exporting via online platforms. Other countries began to develop agricultural products for export as well. Therefore, this research will focus on the actual application of platform Thaitrade.com and whether this platform will succeed with both buyer and seller groups. Quantitative research used to look at the success and marketing strategies used by the platform Thaitrade.com and the qualitative method was used by using in-depth interview. The number of buyers and sellers on Thaitrade.com has increased every year from 2011 to 2016 for five years to 5,661,004, the turnover has grown 15.29% over the past three years. In addition, the budget of Thaitrade.com was effectively managed, accounting for only 1,395.9 baht per person per year. Moreover, Thaitrade.com uses six types of marketing tools and found that SEO strategies can reach the majority of the target audience, accounting for 537,182 people. Email Marketing reaches the lowest number of people, 100,749. It was found that the Thaitrade.com executives had a clear vision that they wanted the platform to be one of the leaders Asia's E-Markets. The executives wanted to support various marketing strategies because that is the key to enable Thaitrade.com to reach the desired goal. According to the opinions of agricultural operators Thaitrade.com is another way to help them increase their income. Moreover, digital marketing can help farmers' products be upgraded from just being sold in Thailand to being sold globally.
ในปัจจุบันการส่งออกผลไม้สดของประเทศไทยถือเป็นภาคที่มีอัตราการเติบโตสูง สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ    และสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกรที่เป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ของประเทศ    การเพิ่มกลยุทธ์ทางด้านการตลาดออนไลน์ หรือ อีคอมเมิร์ซจึงเป็นสิ่งที่นำมาใช้เพื่อให้การส่งออกของไทยได้มีช่องทางที่หลากหลาย ทันยุคสมัยมากยิ่งขึ้น ประกอบกับจุดแข็งของธุรกิจออนไลน์ที่ทำให้การซื้อขายเกิดความง่าย และเข้าถึงกลุ่มผู้ขายได้โดยตรง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งในปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์ได้มีการพัฒนา แพลตฟอร์ม Thaitrade.com ประเภทธุรกิจขายให้ธุรกิจ หรือ B2B เป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรได้เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในนโยบายที่ต้องการตอบโจทย์กับการก้าวเข้าสู่สังคมเทคโนโลยีดิจิทัล แต่อย่างไรก็ตามยังมีประเด็นประเด็นปัญหาความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในด้านการส่งออกผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ และการที่ในหลายประเทศเริ่มหันมาพัฒนาสินค้าการเกษตรเพื่อการส่งออกมากขึ้น ดังนั้นการวิจัยในครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่การนำไปใช้ที่เกิดขึ้นจริงของนโยบายการจัดทำแพลตฟอร์ม  Thaitrade.com  ว่าสามารถตอบโจทย์ทั้งในกลุ่มของผู้ขาย  (เกษตรกร)  หรือกลุ่มของผู้ซื้อได้จริงหรือไม่ การวิจัยครั้งนี้ได้ใช้การวิจัยเชิงปริมาณเพื่อดูความสำเร็จและกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ของแพลตฟอร์ม Thaitrade.com และได้ใช้วิธีการเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยใช้การสัมภาษณ์แบบเชิงลึก (In-depth Interview) จากผลการศึกษาพบว่า Thaitrade.com มีจำนวนผู้ซื้อและผู้ขายเพิ่มขึ้นทุกปี นับตั้งแต่ปี 2554 ถึงปี 2559 เป็นระยะเวลา 5 ปี มีจำนวน 5,661,004 ราย มูลค่าการซื้อขายเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.29 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และงบประมาณที่ใช้ในการทำแพลตฟอร์ม Thaitrade.com ได้บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคิดเป็น 1,395.9 บาทต่อคนต่อปีเท่านั้น นอกจากนี้ Thaitrade.com ยังใช้เครื่องมือกลยุทธ์การตลาดถึง 6 รูปแบบด้วยกัน และพบว่ากลยุทธ์ด้านการทำ SEO มีสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด คิดเป็น 537,182 คน ทั้งนี้ Email Marketing เข้าถึงผู้คนได้น้อยที่สุดเป็น จำนวน 100,749 คน นอกจากนี้จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำ Thaitrade.com พบว่าผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนที่ต้องการให้ Thaitrade.com เป็นหนึ่งใน E-Market ชั้นนำของเอเชีย และสนับสนุนกลยุทธ์ทางการตลาดต่าง ๆ เพราะเห็นว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ Thaitrade.com เข้าไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ สำหรับความคิดเห็นของผู้ประกอบการสินค้าเกษตรเห็นว่า  Thaitrade.com  เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น  อีกทั้งการตลาดดิจิทัลยังช่วยให้สินค้าของเกษตรกรได้ยกระดับจากที่ขายเพียงแค่ในประเทศไทยไปเป็นที่รู้จักในระดับโลกมากขึ้น
URI: http://nuir.lib.nu.ac.th/dspace/handle/123456789/5279
Appears in Collections:คณะบริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
NannaphatKundee.pdf2.61 MBAdobe PDFView/Open


Items in NU Digital Repository are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.