การพัฒนาแบบสอบวินิจฉัยความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนิสิตครู โดยประยุกต์ใช้ G-DINA MODEL

Abstract

The research aims were: 1) To develop and assess the quality of an English language proficiency test for preservice teachers using the G-DINA MODEL, 2) to experiment and diagnose preservice teachers’ communication skills using the G-DINA MODEL 3) to develop a PROFILE, based on the information obtained from the diagnosis of preservice teachers’ English language proficiency for communication. The sample consisted of 566 preservice teachers (four-year-curriculum) studying in the second semester 2020 academic year. Data was collected online and analyzed the using descriptive statistics. Analyzed performance, relative consistency and validity of a diagnostic test with the G-DINA MODEL.

The research results revealed as follows: 1) An English language proficiency test for preservice teachers was developed with 49 multiple-choice questions in accordance with the CEFR standard at B1 level and criteria for communicative language set by the Teacher's Council of Thailand. The results of assessing the quality of the English test revealed that test was valid and reliable. The test was classified into four competencies, namely, listening ability with 6 attributes (12 items), speaking ability with 6 attributes, (13 items), reading ability with 5 attributes (12 items) and writing ability with 4 attributes (12 items). The relative consistency performance analyzed with the G-DINA MODEL was in accordance with all four competency criteria. 2) The model was consistent with the empirical data score and can be used to diagnose preservice teachers’ language competencies and the results of the diagnostic validity analysis revealed that the developed diagnostic test was accurate and met the required criteria. And all sub-traits have a Guessing Parameter and a Slipping Parameter through a low RMSEA parameter which can diagnose preservice teachers’ ability to use English for communication with their competencies classified and in the latent class of the test takers with the competencies in various areas according to the characteristics. 3) The results of PROFILE development showed that a Profile was developed with information obtained from diagnosing learners’ language communicative competencies in four separate areas, consisting of raw scores from the joint test (correct answer=1 and incorrect answer = 0). A pattern of qualification in that area according to the latent class of the test taker (probability) of knowing that qualification including information on the competence that the participant can perform and the weaknesses that learner should improve.

การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อสร้างและตรวจสอบคุณภาพแบบสอบวินิจฉัยความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนิสิตครู โดยประยุกต์ใช้ G-DINA MODEL 2) เพื่อทดลองและวินิจฉัยความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนิสิตครูโดยประยุกต์ใช้ G -DINA MODEL 3) เพื่อพัฒนา PROFILE ข้อมูลสารสนเทศที่ได้จากการวินิจฉัยความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนิสิตครูรายบุคคล กลุ่มตัวอย่าง คือ นิสิตครู (หลักสูตรสี่ปี) ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2563 จำนวน 566 คน เก็บข้อมูลทางระบบออนไลน์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติเชิงบรรยาย วิเคราะห์ประสิทธิภาพความสอดคล้องเชิงสัมพัทธ์และความถูกต้องของแบบสอบวินิจฉัยด้วยโมเดลการวินิจฉัยประเภท Generalization DINA (G-DINA MODEL)

ผลการวิจัย พบว่า 1) แบบสอบวินิจฉัยความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับนิสิตครู ที่พัฒนาขึ้น มีลักษณะเป็นแบบสอบปรนัยเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 49 ข้อ เป็นไปตามกรอบมาตรฐาน CEFR ในระดับ B1 และเกณฑ์ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารที่คุรุสภากำหนด ผ่านการตรวจสอบคุณภาพด้านความตรง ความยาก อำนาจจำแนก และความเที่ยงตรง จำนวน 49 ข้อ จำแนกเป็นความสามารถ 4 ด้าน ได้แก่ ความสามารถด้านการฟัง 6 คุณลักษณะ จำนวน 12 ข้อ ความสามารถด้านการพูด 6 คุณลักษณะ จำนวน 13 ข้อ ความสามารถด้านการอ่าน 5 คุณลักษณะ จำนวน 12 ข้อ และความสามารถด้านการเขียน 4 คุณลักษณะ จำนวน 12 ข้อ ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพความสอดคล้องเชิงสัมพัทธ์ด้วย G-DINA MODEL ผ่านเกณฑ์ความสามารถทั้ง 4 ด้าน 2) โมเดลสอดคล้องกับคะแนนข้อมูลเชิงประจักษ์ สามารถนำไปใช้ในการวินิจฉัยความสามารถของผู้สอบได้ และผลการวิเคราะห์ความถูกต้องของการวินิจฉัย พบว่า แบบทดสอบที่พัฒนาขึ้นมีคุณภาพด้านความถูกต้องของการวินิจฉัย ผ่านเกณฑ์ทุกด้านและทุกคุณลักษณะย่อย มีค่าพารามิเตอร์การเดา (Guessing Parameter) และค่าพารามิเตอร์ความสะเพร่า (Slipping Parameter) ผ่านเกณฑ์ ค่าดัชนีความคลาดเคลื่อนในการประมาณค่าพารามิเตอร์ (RMSEA) ในระดับต่ำ สามารถวินิจฉัยความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนิสิตครู แยกตามความสามารถแต่ละด้านที่นำเสนอในรูปกลุ่มแฝง (Latent Class) ของผู้สอบที่มีความสามารถในด้านต่างๆ ได้ตามคุณลักษณะ 3) ผลการพัฒนา PROFILE พบว่า PROFILE สามารถให้ข้อมูลสารสนเทศที่ได้จากการวินิจฉัยความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนิสิตครูทั้ง 4 ด้าน แยกจากกัน ประกอบด้วย คะแนนดิบจากการทดสอบแบบข้อต่อข้อ (ตอบถูกได้ 1 ตอบผิดได้ 0) แบบแผนการมีคุณลักษณะในความสามารถด้านนั้นๆ ตามกลุ่มแฝง (Latent Class) ของผู้สอบ โดยสามารถบอกค่าความน่าจะเป็น (Probability) ของการรอบรู้คุณลักษณะนั้น รวมถึงสารสนเทศที่เป็นความสามารถที่ผู้สอบผู้นั้นสามารถปฏิบัติได้ และข้อบกพร่องที่ผู้สอบควรจะต้องทำการปรับปรุง