การประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและต้นทุนตลอดวัฏจักรชีวิตของบรรจุภัณฑ์อาหารจากใบทองกวาว

Abstract

The environmental and financial impacts of using Bastard Teak leaf food containers as a replacement for single-use plastic containers were evaluated through a Life Cycle Assessment (LCA) and Life Cycle Costing (LCC) analysis. The study considered the entire lifecycle of the product, including the agricultural process of Bastard Teaks over a period of five years, manufacturing, transportation, use, and disposal phases. The results of the LCA showed that the global warming potential (GWP) of Bastard Teak leaf food containers is 24.35 kg CO2 equivalent per functional unit (130 pieces of 400-mL food container) or 0.19 kg CO2 equivalent per piece. The highest contributors to GWP were transportation, manufacturing through electricity consumption, and disposal phase, accounting for 50.44%, 33.90%, and 15.66% of the total GWP, respectively. The LCC of Bastard Teak leaf food containers was estimated to be approximately 820 Baht per functional unit or 6.30 Baht per piece, with manufacturing and transportation being the primary cost drivers, accounting for 93.16% and 6.84% of the total cost, respectively. The study recommends reducing the GWP and LCC of Bastard Teak leaf food containers by switching to biodiesel or compressed natural gas in transportation, using energy-efficient diecasting machines in manufacturing, and avoiding or reducing the use of kraft paper as packaging. The results of the analysis can be used by manufacturers for product development, investors for business decision-making, and consumers for purchasing decisions.

การประเมินผลกระทบตลอดวัฏจักรชีวิต (Life cycle assessment: LCA) และต้นทุนตลอดวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Cost Analysis: LCC) ของบรรจุภัณฑ์อาหารจากใบทองกวาว ซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติ ที่สามารถนำมาใช้ทดแทนบรรจุภัณฑ์จากพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาด้านขยะ ทั้งในระดับประเทศและทั่วโลก โดยพิจารณาตั้งแต่กระบวนการปลูกต้นทองกวาวที่มีอายุ ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป การผลิต การขนส่ง การใช้ และการกำจัด ผลการประเมินศักยภาพการเกิดภาวะโลกร้อน (Global warming potential: GWP) แสดงให้เห็นว่า บรรจุภัณฑ์อาหารจากใบทองกวาว มีค่า GWP เท่ากับ 24.35 kg CO2 eq ต่อหน่วยหน้าที่ (หนึ่งหน่วยหน้าที่ คือ บรรจุภัณฑ์อาหาร ปริมาตร 400 มิลลิลิตร จำนวน 130 ชิ้น) หรือเท่ากับ 0.19 kg CO2 eq ต่อชิ้น โดยกระบวนการที่ส่งผลกระทบมากที่สุด คือ กระบวนการขนส่ง รองลงมาเป็นกระบวนการผลิต จากการใช้พลังงานไฟฟ้า และกระบวนการกำจัดขยะ คิดเป็นร้อยละ 50.44 ร้อยละ 33.90 และร้อยละ 15.66 ของค่า GWP ทั้งหมด ตามลำดับ นอกจากนี้ ต้นทุนตลอดวัฏจักรชีวิตของบรรจุภัณฑ์อาหารจากใบทองกวาว ประมาณ 820 บาทต่อหน่วยหน้าที่ หรือ 6.31 บาทต่อชิ้น โดยต้นทุนส่วนใหญ่มาจากกระบวนการผลิต รองลงมา เป็นกระบวนการขนส่ง (ดีเซลและค่าบริการไปรษณีย์) คิดเป็นร้อยละ 93.16 และ ร้อยละ 6.84 ของต้นทุนบรรจุภัณฑ์อาหารจากใบทองกวาว ตามลำดับ ดังนั้น จากผลการศึกษานี้ เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงต้นทุนของบรรจุภัณฑ์อาหารจากใบทองกวาว จึงเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานเชื้อเพลิงจากดีเซลเป็นไบโอดีเซล หรือ ก๊าซซีเอ็นจี ในกระบวนการขนส่ง เปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีเครื่องขึ้นรูปที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานในกระบวนการผลิต และลดหรือเลิกใช้กระดาษคราฟท์สำหรับหีบห่อบรรจุภัณฑ์ เพื่อลดผลกระทบในกระบวนการกำจัดขยะ นอกจากนี้ ผู้ผลิตยังสามารถนำผลการศึกษาไปใช้เป็นแนวทางปรับปรุงและพัฒนาของผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ และผู้บริโภคนำข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อบรรจุภัณฑ์อาหารได้