ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะในการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของบุคลากรสาธารณสุข ในจังหวัดแห่งหนึ่ง เขตสุขภาพที่ 4

Abstract

This cross-sectional design aimed to study level of competency and factors influencing competency of prevention and control coronavirus disease 2019. Samples were 311 public health personnel who work COVID-19. The research tools were created and applied which composed of 4 parts: 1) personal data 2) self-efficacy, 3) work motivation, and 4) competency of prevention and control COVID-19. Descriptive statistic was used for personal data and logistic regression was used for factors influencing competency of prevention and control. The results revealed that 54.02 percent of public health personnel had a high level of competency. Factors that influenced competency were as followed: education (p-value = 0.017), expected in self-efficacy (p-value = 0.022), acceptance from internal and external department (p-value = 0.002), responsible to duty (p-value = 0.002), type of job (p-value = 0.009), policy and administrative in department (p-value = < 0.001), and life and privacy (p-value = 0.003). Therefore, factors that effected problems and influenced public health personnel to control diseases should be developed for successful and sustainable of disease control.

การศึกษาครั้งนี้เป็นแบบภาคตัดขวาง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับของสมรรถนะ และศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะในการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานโรคโควิด - 19 จำนวน 311 คน เครื่องมือที่ใช้วิจัย คือ แบบสอบถามที่สร้างขึ้นมา และดัดแปลงจากแบบสอบถามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ศึกษา มี 4 ส่วน คือ1) ข้อมูลส่วนบุคคล 2) การรับรู้ความสามารถของตนเอง 3) แรงจูงใจปฏิบัติงาน 4) สมรรถนะในการป้องกันควบคุมโรคโควิด - 19 การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป ใช้สถิติเชิงพรรณนา และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะฯ ใช้สถิติการถดถอยโลจิสติก ผลการศึกษาพบว่า บุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานโรคโควิด – 19 ส่วนใหญ่มีระดับสมรรถนะสูง ร้อยละ 54.02 ในส่วนของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสมรรถนะฯ พบว่า การศึกษา (p-value = 0.017) ความคาดหวังในความสามารถตนเอง (p-value = 0.022) การได้ยอมรับนับถือทั้งในหน่วยงาน และนอกหน่วยงาน (p-value = 0.002) ความรับผิดชอบหน้าที่ในงาน (p-value = 0.002) ลักษณะงานที่ปฏิบัติ (p-value = 0.009) นโยบายและการบริหารงานในหน่วยงาน (p-value = < 0.001) การมีชีวิต และความเป็นอยู่ส่วนตัว (p-value = 0.003) มีอิทธิพลต่อสมรรถนะฯ ดังนั้นสามารถนำปัจจัยที่แสดงให้เห็นถึงปัญหา และปัจจัยที่ส่งผลให้บุคลากรสาธารณสุขให้สามารถป้องกันควบคุมโรคได้ นำไปพัฒนากำลังคนให้สามารถป้องกันโรคให้เกิดความสำเร็จ และยั่งยืนต่อไป