ผลของชีวภัณฑ์ B-Veggie เเละ Fe - EDTA ที่มีต่อปริมาณสารเคอร์คิวมินในขมิ้นชัน

Abstract

The purpose of this research was to determine the effects of bio-product Bacillus subtilis (B-Veggie) in combination with chemical fertilizers and Fe-EDTA on growth, yield and curcumin content in turmeric. The randomized complete block design (RCBD) was arranged for 16 treatments with 4 replications. The results showed that at one month after planting, turmeric soaked with B-Veggie had the highest height at 15.48 cm and the highest leaf greenness at 23.87 which were statistically significantly different (p≤0.05) from control treatment (no B-Veggie). At two months after planting, the highest growth of turmeric was obtained in chemical fertilizer treatments (both with and without (hydroponics nutrient solution) with the shoot height and leaf length at 45.39 cm. and 44.92 cm.,The greenness of turmeric was the highest at 33.59. which were statistically significantly different (p≤0.05) except stem size and number of leaves. This was different from using B-Veggie in combination with chemical fertilizers (farmers method). For using B-Veggie together with chemical fertilizer and Fe - EDTA when turmeric was 5 months after planting, it was found that the use of B-Veggie in combination with the use of chemical fertilizers and Fe – EDTA at 600 ppm, sprayed on the leaves, divided into 3 times, 200 ppm each time. the highest height at 55.75 cm., the leaf length was 61.00 cm., the stem size was 1.71 cm., the most number of leaves was 5.25 leaves/plant, the highest leaf greenness at 39.27 and the yield was 226.75 g/pot which were statistically significantly different (p≤0.05) Different from using B-Veggie with chemical fertilizers (farmers' method) and Fe – EDTA There, fore application of bio-products B-Veggie in combination with chemical fertilizers and Fe – EDTA Improved growth, yield and curcumin content. the Addition of Fe - EDTA resulted an increased in nutrient content, especially potassium and zinc, which promoted turmeric’ yield and curcumin content.

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการใช้สารชีวภัณฑ์ Bacillus subtilis (B-Veggie) ร่วมกับการจัดการปุ๋ยเคมี และ Fe-EDTA ต่อการเจริญเติบโต ปริมาณผลผลิต เเละปริมาณเคอร์คูมินในขมิ้นชัน โดยใช้แผนการทดลองแบบสุ่มในบล็อคสมบูรณ์ (Randomized Complete Block Design, RCBD) จำนวน 16 ทรีตเมนต์ การทดลอง 4 ซ้ำ ผลการทดลองพบว่า ขมิ้นชันที่แช่ท่อนพันธุ์ด้วย bio-product B-Veggie 1 เดือนหลังปลูก พบว่าความสูงของขมิ้นชันสูงสุดที่ 15.48 เซนติเมตร และความเขียวของขมิ้นชันสูงสุดที่ 23.87 ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ การใช้ B-Veggie ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมี เมื่อขมิ้นชันอายุ 2 เดือนหลังปลูก พบว่าความสูงของขมิ้นชันที่ใส่ปุ๋ยเคมี (ปุ๋ยไฮโดรโปนิกส์) มีความสูงของขมิ้นชันสูงสุดที่ 45.39 เซนติเมตร ความยาวใบสูงสุดที่ 44.92 เซนติเมตร ความเขียวของขมิ้นชันสูงสุดที่ 33.59 ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ยกเว้น ขนาดลำต้น และจำนวนใบ ซึ่งต่างจากการใช้ B-Veggie ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมี (ตามวิธีเกษตรกร) สำหรับการใช้ B-Veggie ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมีและ Fe - EDTA เมื่อขมิ้นชันอายุ 5 เดือนหลังปลูก พบว่าการใช้ B-Veggie ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมี (ปุ๋ยไฮโดรโปนิกส์) พ่นด้วย Fe - EDTA ที่ความเข้มข้น 600 ppm พ่นทางใบแบ่งใส่ 3 ครั้งๆ ละ 200 ppm. ความสูงของขมิ้นชันสูงสุดที่ 55.75 เซนติเมตร ความยาวใบสูงสุดที่ 61.00 เซนติเมตร ขนาดลำต้นสูงสุดที่ 1.71 เซนติเมตร จำนวนใบสูงสุดที่ 5.25 ใบ/ต้น ความเขียวของขมิ้นชันสูงสุดที่ 39.27 และ ผลผลิตสูงสุดที่ 226.75 กรัมต่อกระถาง ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ต่างจากการใช้ B-Veggie ร่วมกับปุ๋ยเคมี (ตามวิธีเกษตรกร) พ่นด้วย Fe - EDTA ดังนั้นการใช้ชีวภัณฑ์ B-Veggie ร่วมกับปุ๋ยเคมี (ปุ๋ยไฮโดรโปนิกส์) พ่นด้วย Fe – EDTA ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโต ผลผลิตสดขมิ้นชัน ปริมาณเคอร์คูมิน และการใส่ Fe - EDTA มีผลทำให้ปริมาณธาตุอาหารที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะ โพเเทสเซียม เเละ สังกะสี มีช่วยส่งเสริมให้ขมิ้นชันมีผลผลิตและมีปริมาณเคอร์คูมินที่เพิ่มมากขึ้น