การศึกษาความรู้ ทัศนคติและการปฏิบัติตามหลักฐานเชิงประจักษ์ของนักกายภาพบำบัดที่ผ่านหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา สาขากายภาพบำบัดในประเทศไทย

Abstract

The use of evidence-based practice (EBP) is an important component to improve the quality of physical therapy treatment. This study aimed 1. to explore the level of knowledge, attitude, and practice of EBP of Thai physical therapists after complete postgraduate physical therapy program in Thailand and 2. to study of the associations among personal-work characteristics and the level of knowledge, attitude, and practice of EBP. A questionnaire was used to obtain information from the samples of 215 physical therapists through internet. Completed questionnaires were returned by 82 physical therapists (a response rate of 38.13%). Descriptive statistics were used to report the responses. Spearman’s rank correlation statistic and Chi-Square test were used to determine the association. The results showed that the physical therapist’s levels of knowledge, attitude, and practice of EBP were good, excellent, and excellent, respectively. Knowledge had significantly positive correlation with both attitude (moderate level, p < 0.001) and practice of EBP (low level, p < 0.001). Attitude had significantly positive correlation with practice of EBP (moderate level, p < 0.001). The personal-work characteristics (such as degree of education, workplace, the average of number patients per day) were significantly correlated with the level of knowledge, attitude, and practice of EBP in physical therapists after postgraduate physical therapy program in Thailand. The main barriers to implementing EBP compliance include lack of time to research or apply empirical evidence, the knowledge of evaluating the quality of evidence was insufficient, the cost of using evidence, and language barriers.

การใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ (EBP)มีความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการรักษาผู้ป่วยในทางกายภาพบำบัด การศึกษานี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. สำรวจระดับความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม EBP ของนักกายภาพบำบัดที่ผ่านการเรียนการสอนและ การปฏิบัติตาม EBP จากหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา สาขากายภาพบำบัดในประเทศไทย และ 2. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลคุณลักษณะผู้ตอบแบบสอบถามกับระดับความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม EBP โดยสำรวจความคิดเห็นด้วยแบบสอบถามผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 215 คน มีผู้ตอบกลับจำนวน 82 คน (อัตราตอบกลับ 38.13%) รายงานผลการตอบกลับด้วยสถิติเชิงพรรณนา สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ แบบ สเปียร์แมนและสถิติไคสแควร์ใช้ทดสอบค่าความสัมพันธ์ ผลการศึกษาพบว่า นักกายภาพบำบัดมีระดับความรู้ดี ระดับทัศนคติอยู่ในระดับดีมาก และระดับพฤติกรรมการปฏิบัติตาม EBP อยู่ในระดับบ่อยมาก ระดับความรู้มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับระดับทัศนคติในระดับ ปานกลาง (p < 0.001) และมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับระดับพฤติกรรมในระดับต่ำ (p < 0.001) ระดับทัศนคติพบว่ามีความสัมพันธ์เชิงบวกกับระดับพฤติกรรมที่ระดับปานกลาง (p < 0.001) และพบว่าคุณลักษณะบุคคลและการทำงาน (ได้แก่ ระดับการศึกษา ลักษณะการทำงาน จำนวนผู้ป่วยโดยเฉลี่ยต่อวัน) มีความสัมพันธ์กับระดับความรู้ ระดับทัศนคติ และ ระดับพฤติกรรมเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม EBP ของนักกายภาพบำบัดที่สำเร็จการศึกษา จากหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา สาขากายภาพบำบัดในประเทศไทย โดยอุปสรรคที่สำคัญ ที่ขัดขวางการใช้การปฏิบัติตาม EBP ได้แก่ การไม่มีเวลาในการค้นคว้าหรือนำหลักฐาน เชิงประจักษ์มาใช้เป็น ความรู้ในการประเมินคุณภาพหลักฐานประจักษ์ไม่เพียงพอ การมีค่าใช้จ่ายในการนำหลักฐานมาใช้ และอุปสรรคด้านภาษา